GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
บทความ
เข้าสู่ระบบ
ผลการค้นหา : "Counterplay Games"
รีวิว Godfall ศึกนักรบแห่งทวยเทพเกมเน็กซ์เจนที่ชูโรงโชคประสิทธิภาพเครื่อง PS5
ถ้าให้พูดถึงเกม “Godfall” มันคืออีกหนึ่งเกมน้ำดีที่วางจำหน่ายพร้อมกับเครื่องเกมคอนโซลรุ่นใหม่อย่าง PlayStation 5 เพื่อโปรโมทให้เกมเมอร์เห็นประสิทธิภาพของเครื่องเกมรุ่นนี้ว่าสามารถทำอะไรได้บ้าง! แต่ด้วยความที่ตอนนี้เครื่องเกม PlayStation 5 ยังไม่มีการประกาศวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในบ้านเรา ผู้ที่จะเล่นเกมนี้ได้ก็คือแพลตฟอร์ม PC นั่นเองค่ะ วันนี้เกวลินก็เลยจะพาเพื่อน ๆ มารู้จักเกมนี้ให้มากยิ่งขึ้น เพราะด้วยราคาเกมที่สูงทำให้หลายคนตั้งคำถามว่า “Godfall เป็นเกมที่คุ้มค่าที่จะซื้อมาเล่นหรือเปล่า!?” เมื่ออ่านบทความรีวิวนี้เพื่อน ๆ น่าจะได้คำตอบไม่มากก็น้อยค่ะ   เนื้อเรื่องที่เหมือนจะดี...แต่มันกลับไม่เป็นอย่างที่คิดซะงั้น! เนื้อเรื่องของเกม Godfall พูดถึงเราผู้เป็นหนึ่งในอัศวินวาลอเรียนกลุ่มสุดท้ายที่มีหน้าที่ในการกอบกู้ดินแดน Aperion ให้รอดพ้นจากการล่มสลาย โดยเราจะต้องสวมชุดเกราะในตำนานที่ภายในเกมเรียกว่า “Valorplate” ซึ่งชุดเกราะนี้จะเปลี่ยนให้นักรบที่มีพลังธรรมดากลายเป็นผู้ที่แข็งแกร่งไร้เทียมทานได้ ซึ่งเราจะต้องไปทำภารกิจเพื่อต่อสู้กับเหล่านักรบที่แข็งแกร่งเพื่อนำความสงบสุขสู่ดินแดนของเราอีกครั้ง! ฟังเนื้อเรื่องปูทางออกมาจริง ๆ คือดีในระดับหนึ่งเลยนะคะ แต่เชื่อไหมว่ามันดันตกม้าตายซะงั้น เพราะการทำภารกิจภายในเกมเราจะได้แค่พูดคุยและสืบหาข้อมูลเพื่อเดินทางไปต่อสถานที่ต่อไปเท่านั้น แถวบอสใหญ่แต่ละฉากที่เราจะต้องต่อกรด้วยเนื้อเรื่องพูดถึงหลังจากจัดการไปน้อยมากจริง ๆ ทั้งที่ช่วงต้นเกมเนื้อเรื่องปูมาซะดิบดีเลยค่ะ ทำให้รู้สึกได้อย่างหนึ่งว่าเรื่องบทเนื้อเรื่องทางทีมผู้พัฒนาเกม Counterplay Games ใส่ใจรายละเอียดน้อยไปนิด อย่างไรก็ตามเนื้อเรื่องยังไม่จบแค่นั้นนะคะ ซึ่งจะมีการเล่าต่อในเนื้อหาเสริม [DLC] ที่จะอัปเดตภายในปีหน้า ก็ได้แต่หวังว่าจะแก้ไขในส่วนเนื้อเรื่องที่ทำให้ดูน่าติดตามมากกว่านี้ก็แล้วกันนะ เกมเพลย์ที่ดุดัน หลากหลาย มีเสน่ห์ และ เป็นจุดแข็งของเกมนี้! ต้องบอกว่าตัวเกม Godfall เกมเพลย์มีความซับซ้อนมาก แต่ต้องอธิบายก่อนว่าคำว่า “ซับซ้อน” ที่เกวลินพูดถึงคือระบบภายในเกมมันเยอะมากจริง ๆ ค่ะ ซึ่งถ้าผู้เล่นใหม่จะต้องทำความเข้าใจเรื่องอาวุธภายในเกมก่อนค่ะ ปัจจุบันอาวุธภายในเกมจะมีทั้งหมด 5 ชนิดแล้วทุกชนิดก็เป็นประเภทโจมตีในระยะประชิดทั้งหมด ไม่มีอาวุธที่ใช้ในการโจมตีระยะไกล หรือ อาวุธที่ทำให้เราร่ายเวทมนตร์ได้ ซึ่งอาวุธภายในเกมก็จะประกอบไปด้วย ดาบยาว, ดาบใหญ่, ดาบคู่, หอก และ ค้อน รวมไปถึงโล่ที่เราสามารถใช้ในการป้องกันการโจมตีหรือสวนการโจมตีกลับก็ทำได้เหมือนกัน ทั้งนี้ต่อให้อาวุธภายในเกมจะมีเพียงแค่นี้แต่เราก็สามารถพกอาวุธได้ 2 ชนิดในเวลาเดียวกันค่ะ ทั้งนี้เมื่ออยู่ในเกมถ้าเราเก็บไอเทมพวกอาวุธต่าง ๆ เราก็สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงอาวุธได้ตลอดเวลาอีกด้วย ทำให้ใครที่กังวลเรื่องนี้ตัดไปได้เลยค่ะ แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องมาทำความเข้าใจเพิ่มอีกอย่างก็คือ “อาวุธทุกชิ้นมีธาตุในตัว!” ซึ่งธาตุเหล่านี้จะมีผลต่อมอนสเตอร์ภายในเกม ในช่วงแรก ๆ เรื่องธาตุอาจจะไม่เห็นผลมากนัก แต่ถ้าเราเล่นจนเข้าสู่คอนเทนต์หลัง End Game มันจะเห็นความแตกต่างพอสมควรเวลาไปอัดกับมอนสเตอร์ในระดับสูง ทำให้เกมนี้ผู้เล่นจำเป็นต้องพกอาวุธติดตัวไปหลากหลายธาตุเพื่อเอาไว้ใช้ต่อกรกับมอนสเตอร์ หรือ บอสบางตัวค่ะ แล้วสิ่งที่จะทำให้เกมเพลย์ดูลื่นไหลและเป็นสไตล์ในแบบของผู้เล่นก็คือ “การอัปเกรดสกิล” ทุก ๆ 1 เลเวลเราจะได้แต้มอัปสกิล 1 Point หรือ บางครั้งถ้าไปทำภารกิจก็จะมอบให้ 1 Point หลังทำภารกิจนั้น ๆ สำเร็จ ปัจจุบันสกิลของเกม Godfall มีให้อัปเกรดทั้งหมด 25 ตัว ซึ่งทุก ๆ ตัวจะ Max Level อยู่ที่ระดับ 5 ในแต่ละสกิลการเพิ่มขั้นของสกิลนั้น ๆ ก็จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ รวมไปถึงอาจจะปลดล็อครูปแบบการโจมตี หรือ ลูกเล่นที่ใช้ในการหลบการโจมตีที่ลื่นไหลมากยิ่งขึ้นค่ะ แล้วตรงนี้เองที่ทำให้เราสามารถผสมผสานเกมเพลย์ในแบบของตัวเองที่ได้จากอาวุธที่เลือกใช้ และ สกิลที่อัปเกรดค่ะ เกมเพลย์ของเกม Godfall ถือได้ว่าเป็นจุดแข็งของเกมนี้เลยก็ว่าได้ค่ะ อย่างไรก็ตามมันก็มีจุดที่ต้องอธิบายเพิ่มเติมว่าตัวเกมจะเน้นความดุดันเป็นหลัก ทำให้มันไม่ได้แอ็คชั่นลื่นไหลเหมือนพวกเกม Devil May Cry อะไรพวกนั้นนะคะ เพราะเราไม่สามารถยกเลิกแอนิเมชั่นได้สมบูรณ์แบบ ยิ่งถ้าใช้อาวุธที่มีขนาดใหญ่ น้ำหนักเยอะอันนี้เห็นผลชัดเจนเลย แต่มันก็ขึ้นอยู่กับผู้เล่นว่าอัปเกรดสกิลในส่วนการเพิ่มท่าทางการหลบหลีกมากน้อยแค่ไหน ความสนุกของเกมนี้เลยอยู่ตรงนี้ละค่ะ มาถึงสุดท้ายแล้วสิ่งที่เป็นจุดเด่นของเกมนี้ก็คือ “Valorplate” ชุดเกราะนักรบแห่งทวยเทพ ซึ่งการออกแบบชุดเกราะเหล่านี้อ้างอิงจากจักรราศีทั้ง 12 โดยผู้เล่นจะสามารถปลดล็อคชุดเกราะพวกนี้ได้จากการรวบรวมไอเทมต่าง ๆ แล้วสร้างทีละชุด ๆ แน่นอนว่าแต่ละชุดล้วนมีท่าพิเศษที่เมื่อกดใช้งานจะทำให้เราได้รับผลจากชุดนั้น ๆ ชั่วระยะหนึ่ง ยกตัวอย่างเช่น  ชุดเกราะ Illumina เมื่อเลือกใช้งานผู้เล่นจะได้คุณสมบัติในการเพิ่มความเสียหายให้กับจุดอ่อนของศัตรู 15% แล้วถ้ากดใช้ท่าพิเศษ [Archon Fury] จะปล่อยคลื่นพลังงานสร้างความเสียหายเล็กน้อย และ เผยให้เห็นจุดอ่อนของศัตรู แล้วเมื่อเราโจมตีใส่ศัตรูบริเวณจุดอ่อนก็จะสร้างความเสียหายเพิ่มเติม 40% และความเสียหายจะเพิ่มขึ้นอีก 40% เมื่อผู้เล่นโจมตีบริเวณจุดอ่อนทุกครั้งที่เราทำให้ศัตรูติดสถานะกระเด็น หรือ Deathblow สำเร็จ เป็นต้น โดยชุดเกราะ “Valorplate” ผู้เล่นจะสามารถปลดล็อคได้ครบทั้ง 12 ชุดเมื่อเล่นจบเนื้อเรื่องหลักแล้วดังนั้นอยู่ที่เราอยากจะเล่นสายไหนก็เลือกชุดเกราะให้เหมาะสมก็เพียงพอแล้วค่ะ  กราฟฟิกที่ทำออกมาดีเยี่ยม! แม้ว่าสเปกเครื่องจะไม่สูงก็ตาม ด้วยความที่ตัวเกม Godfall ทางทีมผู้พัฒนาเกม Counterplay Games ได้เลือกใช้ “Unreal Engine 4” ก็มีเกมเมอร์จำนวนไม่น้อยที่กังวลว่า “คอมพิวเตอร์ของตนเองไม่ได้สเปกสูงจะสามารถรันเกมนี้ได้เต็มประสิทธิภาพไหม!?” ผลจากการทดสอบคอมพิวเตอร์ของเกวลินคือ CPU ใช้ i7-8700K ส่วน Ram 32GB. และ GPU ใช้ NVIDIA GeForce GTX 1660 Super ปรับกราฟฟิกสูงสุดความละเอียด 1080p ได้เฟรมเรตอยู่ที่ 59 - 110fps นั้นถือว่าอยู่ในระดับที่น่าพึ่งพอใจเลยค่ะ เพราะจากที่คำนวนแล้วสเปกที่ใช้เล่นอยู่ในขั้นแนะนำนั่นเองค่ะ รายละเอียดกราฟฟิก แสง สี ของเกม Godfall ทำออกมาได้ดีไร้ที่ติ แต่ในช่วง Day One ตัวเกมก็มีปัญหาเรื่อง Bug ต่าง ๆ เกี่ยวกับการแสดงผลที่เยอะพอสมควร โดยเฉพาะเมื่อเล่นออนไลน์กับเพื่อนจะพบปัญหาเกี่ยวข้องกับเฟรมเรตที่ลดลงจากตอนเล่นคนเดียวอย่างเห็นได้ชัดเจน ทั้งนี้ก็ต้องยอมใจทีมผู้พัฒนาเกมที่มีการออกแพทช์อัปเดตแก้ไขปัญหาเรื่องการแสดงผลกราฟฟิก และ เฟรมเรตผิดพลาดเหล่านี้อยู่ 2 - 3 รอบอย่างไรก็ตาม ส่วนใครที่รอเล่นบนเครื่องเกม PlayStation 5 บอกเลยว่าจากการที่ไปส่องเพื่อนที่เขามีเครื่องก็ตอบกลับมาว่า “กราฟฟิกสวยงาม เฟรมเรตนิ่ง การแสดงผลดีเยี่ยม แต่ก็มี Bug มากวนใจเล็ก ๆ น้อย ๆ” สรุปคือดีงาม! สรุป สรุปแล้วความคุ้มค่าในการซื้อเกม Godfall มาเล่นในช่วงเวลาแบบนี้เกวลินก็ตอบได้คำเดียวว่า “คุ้มค่ากับเงินที่เสียไปแน่นอน!” อาจจะเพราะว่าเราไม่ค่อยเห็นเกมทำนองแบบนี้ออกมาให้เราได้เล่นกันมากนัก ตัวเกมมอบความสนุก ตื่นเต้น และ ความท้าทายให้กับผู้เล่นไม่ว่าจะเล่นคนเดียว หรือ เล่นออนไลน์กับเพื่อน ๆ เพราะเมื่อเราเล่นโหมด Hard ความยากที่เพิ่มขึ้น ข้อจำกัดที่ท้าทายผู้เล่นในทีม มันเลยทำให้เราและเพื่อนจะต้องสามัคคีกันไม่งั้นก็ไม่สามารถผ่านอุปสรรคไปได้ แล้วความคุ้มค่าที่เกวลินมองเห็นก็คือ “คอนเทนต์หลัง End Game” มีอะไรให้เราได้ทำเพียบเลยค่ะ เมื่อเราเล่นจบเนื้อเรื่องก็ยังมีการเก็บเลเวลเพื่อไต่ระดับขึ้นไปจุดสูงสุดคือ Level 50 แต่กว่าจะไต่ไปถึงระดับนั้นได้เราก็จะต้องเผชิญหน้ากับ “Tower of Trials หอคอยแห่งการทดสอบ” สถานที่แห่งนี้จะให้เราต่อกรกับศัตรูที่แข็งแกร่งออกตามหาอาวุธในตำนานที่ซ่อนอยู่เพื่อกลับไปล้างบางบอสที่แข็งแกร่งบนหอคอยแห่งการทดสอบในระดับที่สูงขึ้น ซึ่งตอนนี้ที่ทำสถิติได้คืออยู่ที่ชั้น 11 เท่านั้นค่ะ หลังจากนี้ลำบากพอตัวเพราะศัตรูที่เยอะขึ้น และ แข็งแกร่งเกินที่จะต่อกรได้ไว รวมไปถึงคอนเทนต์อื่น ๆ ภายในเกมที่น่าสนใจไม่ว่าจะเป็นการอัปเกรดเลื่อนขั้นอาวุธที่ต่อให้เราไม่มีอาวุธในตำนานก็ให้หาอาวุธชิ้นที่ต้องการ จากนั้นก็เลื่อนขั้นไปเรื่อย ๆ จนกลายเป็นระดับสูงสุดได้ด้วยเช่นเดียวกัน แต่ทั้งนี้มันก็จะมีการสุ่มออกชั่นของอาวุธก็ขึ้นอยู่กับเพื่อน ๆ ว่าจะได้ออฟชั่นตรงกับอาวุธที่เลื่อนขั้นหรือเปล่า แม้ว่าตัวเกม Godfall ส่วนตัวเกวลินจะมองว่ามันคุ้มค่าเพียงใดก็ตาม จุดบอดของเกมก็มีให้เห็นเหมือนกัน ซึ่งส่วนใหญ่จะตกไปอยู่ที่บทเนื้อเรื่องที่ทำออกมาได้ขั้นแย่พอสมควร ฉากคัตซีนสวย ๆ ที่เราเห็นในตัวอย่างจะมีแค่ช่วงเริ่มต้นเกมเท่านั้นค่ะ ที่เหลือก็จะเป็นฉากคัตซีนที่ทำขึ้นมาผ่าน Unreal Engine 4 แล้วที่หนักที่สุดตัวเกมก็ยังมี Bug ให้เราได้เห็นอยู่เป็นระยะ ๆ อีกด้วย โชคยังดีที่ทีมงานมีการเก็บข้อมูลจากผู้เล่นที่มีการแจ้งปัญหาไปแล้วก็ออกแพทช์แก้ไขยกตัวอย่างแพทช์ Day One ที่มีขนาดไฟล์ 25GB. เรียกว่าครึ่งหนึ่งของไฟล์เกมกันเลยค่ะ แล้วอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่อาจจะทำให้เกมเมอร์หลายคนไม่สบายใจก็คงจะเป็นเรื่องของราคาที่จัดอยู่ในระดับที่ “แพงหูฉีก!” เพราะขนาดแพ็คเกจ Standard Edition ยังราคาประมาณ 1,700 บาท แล้วถ้าจะให้คุ้มค่ายังไงก็ต้องซื้อตัวเกมพร้อมเนื้อหาเสริม [DLC] ที่ราคาจะอยู่ประมาณ 2,260 บาท ด้วยราคาเกมขนาดนี้กับคอนเทนต์ที่บางคนอาจจะมองว่า “มันน้อยไปหน่อย!” ซื้อเกมอื่นอาจจะคุ้มค่ากว่า เกวลินก็มองว่าเห็นด้วยค่ะ เพราะถ้าซื้อมาเล่นคนเดียวมันไม่สนุกเท่าไหร่ แต่ถ้าซื้อมาเล่นกับเพื่อนรวม ๆ แล้วมันก็ถือว่าเป็นเกมที่น่าเสียเงินซื้อมาเล่นได้อยู่ อีกทั้งตอนนี้ก็ได้แต่ลุ้นว่าทางทีมผู้พัฒนาเกม Counterplay Games จะตัดสินใจให้เกม Godfall สามารถเล่นข้ามแพลตฟอร์ม [Cross-Platform] ระหว่าง PC กับ PlayStation 5 หรือเปล่า!? เพราะถ้าทำได้จริงก็จะช่วยทำให้เกมนี้ได้รับความนิยมมากขึ้น แล้วยิ่งให้เกมนี้เป็นตัวชูโรงในช่วงแรกของการโปรโมทเครื่องเกม PlayStation 5 ด้วยแล้วถ้าทำระบบนี้มันก็จะตอบโจทย์ผู้เล่นได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ น่าเสียดายที่ยังไม่มีการพูดถึงเรื่องนี้เลย สุดท้ายใครที่สนใจอยากจะเล่นเกมนี้แพลตฟอร์ม PC สั่งซื้อได้แล้วที่ Epic Games ส่วนแพลตฟอร์ม PlayStation 5 ก็วางจำหน่ายบน PlayStation Store ได้แล้ววันนี้ค่ะ [penci_review id="72743"]
19 Nov 2020
รู้ก่อนซื้อ! Godfall เกมแนว Action RPG ฟอร์มดีเอ็กซ์คลูซีฟ PC และ PS5 ที่ควรหามาเล่น
มาอยู่อีกหนึ่งเกมที่พึ่งวางจำหน่ายกันไปสด ๆ ร้อน ๆ แถมเป็นหนึ่งในเกมที่ใช้ในการโปรโมทเครื่องเกมคอนโซลรุ่นใหม่ PlayStation 5 ด้วยนะ นั้นก็คือเกม “Godfall” เกมแนว Action Hack and Slash ผลงานจาก Counterplay Games หนึ่งในทีมผู้พัฒนาเกมที่อยู่ภายใต้การดูแลของ Gearbox Software ที่หลายคนอยากจะซื้อเกมนี้เพื่อมาเล่นบนเครื่อง PlayStation 5 ซะหน่อย แต่เพราะตอนนี้เครื่องยังไม่มีกำหนดวางจำหน่ายในบ้านเราอย่างเป็นทางการ ทำให้มีเกมเมอร์จำนวนหนึ่งตัดสินใจที่จะไปซื้อเล่นบนแพลตฟอร์ม PC เสียก่อน หนึ่งในนั้นก็คือเกวลินเองละค่ะ ฮ่า ๆ วันนี้จะพาเพื่อน ๆ ไปรู้จักเกมนี้คร่าว ๆ ก่อนที่จะซื้อมาเล่นกันค่ะ   ตัวเกม Godfall มันเป็นเกมแนวไหนกันแน่!? เป็นคำถามแรก ๆ ที่หลายคนก็ยังคงสงสัยว่า “สรุปแล้วเกมนี้มันเป็นเกมแนวไหน เล่นอะไรยังไง!?” เกวลินเลยขออธิบายให้ฟังคร่าว ๆ ก็คือตัวเกมเป็นแนว Action Hack and Slash ที่ให้อารมณ์เหมือนกำลังเล่นเกม Warframe เกมเพลย์มีความแอ็คชั่นที่ดุดัน ผ่านภารกิจในรูปแบบมิสชั่นที่แต่ละด่านก็จะมีเงื่อนไขในการทำที่แตกต่างกันออกไปค่ะ แล้วเราก็เลือกระดับความยากง่ายได้ด้วย ส่วนความแข็งแกร่งของตัวละครก็จะขึ้นอยู่กับไอเทมต่าง ๆ ที่มีการแบ่งระดับออกไป ในช่วงเริ่มเกมไอเทมก็จะได้ตามระดับเลเวลของด่านที่เราต้องไปลง นอกจากนี้ไอเทมทุกชิ้นภายในเกมล้วนมีออฟชั่นที่ไม่เหมือนกัน ทำให้ผู้เล่นสามารถที่จะอัปสกิลในแบบที่ต้องการจะเล่นแล้วนำมาผสมผสานกับการใส่ออฟชั่นให้เหมาะสม ทำให้เราสามารถมีสายการเล่นที่แตกต่างกันออกไป ในด้านอาวุธภายในเกมก็มีหลากหลายประเภท ต่อให้เป็นประเภทเดียวกันก็มีลูกเล่นที่ไม่เหมือนกันอีกด้วยค่ะ ตรงนี้เลยทำให้กลายเป็นจุดเด่นที่เราสามารถสร้างเกมเพลย์ให้แตกต่างจากผู้เล่นคนอื่น ๆ ได้   แม้จะเล่นคนเดียวก็ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในการเล่นตลอดเวลา! ใช่ค่ะ เพื่อน ๆ ฟังไม่ผิดแน่นอน เพราะตัวเกม Godfall ถึงผู้เล่นจะเล่นคนเดียวตั้งแต่ต้นจนจบเกม แต่ตัวเกมก็จะมีการบังคับให้เราเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตตลอดเวลา เพื่อให้ตัวเกมสามารถอัปเดตข้อมูลในการเล่นเอาไว้ตลอดเวลาเพื่อป้องกันการสูญหายจากปัญหาต่าง ๆ อีกทั้งเมื่อเราเล่นอยู่ภายในเกมถ้ายังไม่ลงภารกิจต่าง ๆ ก็สามารถที่จะชวนเพื่อนเข้าในปาร์ตี้เพื่อไปทำภารกิจร่วมกันได้เลยค่ะ กราฟฟิกสุดอลังการด้วยขุมพลังของ Unreal Engine 4 ต้องบอกว่าตั้งแต่เปิดตัวอย่างเป็นทางการของเกม Godfall ตัวเกวลินก็ให้ความสนใจเกมนี้และติดตามข่าวสารมาโดยตลอด ตัวเกมทางทีมผู้พัฒนาเกม Counterplay Games ตัดสินใจเลือกใช้ “Unreal Engine 4” จากค่ายยักษ์ใหญ่ Epic Games ในการสร้างสรรคเกมนี้ออกมาให้เราได้เล่นกัน จึงไม่ต้องแปลกใจที่ทำไมเกมนี้ถึงวางจำหน่ายแบบเอ็กซ์คลูซีฟบนแพลตฟอร์ม PC ผ่านร้านค้าของ Epic Games ก่อน 6 ไปวางจำหน่ายผ่านช่องทางอื่นเป็นระยะเวลา 6 เดือน เห็นภาพสวย ๆ แบบนี้บนแพลตฟอร์ม PC แต่จริง ๆ ไม่ได้กินสเปกอย่างที่คิด! แอบกลัวเหมือนกันค่ะ เพราะตอนแรกที่เกวลินเห็นตัวอย่างเกม Godfall คิดว่ามันจะต้องกินสเปกเครื่องแน่นอนเลย แถมตัวเกมยังใช้ขุมพลัง Unreal Engine 4 ทำให้คนที่ใช้สเปกระดับกลาง ๆ ก็กังวลไม่ใช่น้อยเลยว่าจะเล่นเกมนี้ได้หรือเปล่า แต่ผลจากการทดสอบคอมพิวเตอร์ของเกวลินคือ CPU ใช้ i7-8700K ส่วน Ram 32GB. และ GPU ใช้ NVIDIA GeForce GTX 1660 Super ปรับกราฟฟิกสูงสุดความละเอียด 1080p ได้เฟรมเรตอยู่ที่ 40 - 55fps ส่วนสเปกคอมพิวเตอร์ที่ทางทีมผู้พัฒนาเกมแนะนำมีดังต่อไปนี้ สเปคคอมพิวเตอร์ขั้นต่ำที่ใช้ในการเล่นเกม Godfall OS: Windows 10 เฉพาะ 64Bit. เท่านั้น CPU: Intel Core I5-6600 3.3GHz. หรือ AMD Ryzen 5 1600 3.2GHz. ขึ้นไป Ran: 12GB. ขึ้นไป GPU: NVIDIA GeForce GTX 1060 ที่มีหน่วยความจำ 6GB. ขึ้นไป หรือ AMD Radeon RX 580 ที่มีหน่วยความจำ 8GB. ขึ้นไป Storage: 50 GB. ขึ้นไป แนะนำให้ติดตั้ง SSD หรือ SSD M.2 จะช่วยให้การอ่านข้อมูลรวดเร็วมากขึ้น DirectX: Version 11 compatible video card or equivalent Network: Broadband Internet connection Sound Card: DirectX Compatible สเปกเครื่องคอมพิวเตอร์ขั้นแนะนำที่ใช้ในการเล่นเกม Godfall OS: Windows 10 เฉพาะ 64Bit. เท่านั้น CPU: Intel Core I5-8700 4.6GHz. หรือ AMD Ryzen 5 3600 3.6GHz. ขึ้นไป Ran: 16GB. ขึ้นไป GPU: NVIDIA GeForce GTX 1080 Ti ที่มีหน่วยความจำ 11GB. ขึ้นไป หรือ AMD Radeon RX 5700 XT ที่มีหน่วยความจำ 8GB. ขึ้นไป Storage: 50 GB. ขึ้นไป แนะนำให้ติดตั้ง SSD หรือ SSD M.2 จะช่วยให้การอ่านข้อมูลรวดเร็วมากขึ้น DirectX: Version 11 compatible video card or equivalent Network: Broadband Internet connection Sound Card: DirectX Compatible ราคาเกมที่อาจจะแรง แต่ก็คุ้มค่าที่จะซื้อมาเล่นอยู่นะ! ปัจจัยสำคัญของเกม Godfall ที่ทำให้เกมเมอร์ลังเลก็คือเรื่องของราคาที่ไม่ว่าจะเป็นแพลตฟอร์มไหนก็สูงพอสมควรเลย ขนาดแบบแผ่นของเครื่อง PlayStation 5 แพ็คเกจธรรมดายังขายในราคา 2,290 บาท โดยแพ็คเกจแพลตฟอร์ม PC ผ่านร้านค้าของ Epic Games มีทั้งหมด 3 ชุดด้วยกันประกอบไปด้วย Standard Edition ราคาอยู่ที่ $56.99 เหรียญสหรัฐฯ [1,700 บาท] ที่จะมีเพียงแค่ตัวเกมเท่านั้น ตามมาด้วย Deluxe Edition ราคาอยู่ที่ $74.99 เหรียญสหรัฐฯ [2,260 บาท] ที่จะมีทั้งตัวเกมและเนื้อหาเสริมที่จะอัปเดตภายในปี 2021 และ Ascended Edition ราคาอยู่ที่ $84.99 เหรียญสหรัฐฯ [2,560 บาท] รายละเอียดในชุดนี้มีดังต่อไปนี้ ตัวเกม Godfall เนื้อหาเสริม [DLC] ตัวแรกที่จะอัปเดตในปี 2021 สกินสีทอง [Gold Valorplate] ของชุดเกราะ Silvermane, Phoenix และ Greyhawk สกินสีพิเศษ [Red Valorplate] ของชุดเกราะ Vertigo สกินสีทองของอาวุธ 5 ชิ้น สกินสีทองของโล่ สกิลสีทองของ Royal Banner ฉายาพิเศษในโหมดออนไลน์ ถ้าถามเกวลินว่าควรซื้อแพ็คเกจไหนถึงจะเหมาะสมดี!? เพราะแพ็คเกจ Deluxe Edition และ Ascended Edition ที่ราคาห่างกันประมาณ 300 บาทให้คอนเทนต์ภายในที่แตกต่างกันเล็กน้อย แต่สิ่งที่สำคัญก็คือเนื้อหาเสริม [DLC] ตัวแรกที่ได้มาทั้งสองตัว อืม...ถ้าให้แนะนำคงเป็น Deluxe Edition ค่ะ แต่ถ้าใครที่คิดว่ากำลังเงินไว้ก็สามารถเลือกเป็น Ascended Edition ก็จะได้สกินเหล่านั้นมาใช้ในการติดตั้ง ซึ่งไม่มีผลอะไรกับตัวละครนะคะ แค่ความสวยงามและเก๋ไก๋เท่านั้น เพราะภายในเกมและในอนาคตก็จะมีการเพิ่มสกินและโทนสีเข้ามาให้ผู้เล่นได้ปลดล็อคอยู่แล้วนั่นเองค่ะ นี่เป็นแค่รายละเอียดแนะนำเพื่อให้เพื่อน ๆ ได้รู้จักเกม Godfall มากยิ่งขึ้นค่ะ แล้วหลังจากนี้ทางเกวลินก็จะมีบทความรีวิวเกม และ ไกด์ต่าง ๆ ของเกมนี้ออกมาเสิร์ฟให้เพื่อน ๆ ได้ติดตามกัน อย่างแน่นอนค่ะ ใครที่สนใจอยากเล่นบนแพลตฟอร์ม PC ก่อนก็สามารถสั่งซื้อได้แล้วที่ Epic Games ส่วนแพลตฟอร์ม PlayStation 5 ก็วางจำหน่ายบน PlayStation Store แล้ววันนี้ ส่วนเครื่องละ 5 5 5+ อันนี้รอทาง Sony Thailand ประกาศวันวางจำหน่ายและราคาอย่างเป็นทางการต่อไปค่ะ
17 Nov 2020
GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
ผลการค้นหา : "Counterplay Games"
รีวิว Godfall ศึกนักรบแห่งทวยเทพเกมเน็กซ์เจนที่ชูโรงโชคประสิทธิภาพเครื่อง PS5
ถ้าให้พูดถึงเกม “Godfall” มันคืออีกหนึ่งเกมน้ำดีที่วางจำหน่ายพร้อมกับเครื่องเกมคอนโซลรุ่นใหม่อย่าง PlayStation 5 เพื่อโปรโมทให้เกมเมอร์เห็นประสิทธิภาพของเครื่องเกมรุ่นนี้ว่าสามารถทำอะไรได้บ้าง! แต่ด้วยความที่ตอนนี้เครื่องเกม PlayStation 5 ยังไม่มีการประกาศวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในบ้านเรา ผู้ที่จะเล่นเกมนี้ได้ก็คือแพลตฟอร์ม PC นั่นเองค่ะ วันนี้เกวลินก็เลยจะพาเพื่อน ๆ มารู้จักเกมนี้ให้มากยิ่งขึ้น เพราะด้วยราคาเกมที่สูงทำให้หลายคนตั้งคำถามว่า “Godfall เป็นเกมที่คุ้มค่าที่จะซื้อมาเล่นหรือเปล่า!?” เมื่ออ่านบทความรีวิวนี้เพื่อน ๆ น่าจะได้คำตอบไม่มากก็น้อยค่ะ   เนื้อเรื่องที่เหมือนจะดี...แต่มันกลับไม่เป็นอย่างที่คิดซะงั้น! เนื้อเรื่องของเกม Godfall พูดถึงเราผู้เป็นหนึ่งในอัศวินวาลอเรียนกลุ่มสุดท้ายที่มีหน้าที่ในการกอบกู้ดินแดน Aperion ให้รอดพ้นจากการล่มสลาย โดยเราจะต้องสวมชุดเกราะในตำนานที่ภายในเกมเรียกว่า “Valorplate” ซึ่งชุดเกราะนี้จะเปลี่ยนให้นักรบที่มีพลังธรรมดากลายเป็นผู้ที่แข็งแกร่งไร้เทียมทานได้ ซึ่งเราจะต้องไปทำภารกิจเพื่อต่อสู้กับเหล่านักรบที่แข็งแกร่งเพื่อนำความสงบสุขสู่ดินแดนของเราอีกครั้ง! ฟังเนื้อเรื่องปูทางออกมาจริง ๆ คือดีในระดับหนึ่งเลยนะคะ แต่เชื่อไหมว่ามันดันตกม้าตายซะงั้น เพราะการทำภารกิจภายในเกมเราจะได้แค่พูดคุยและสืบหาข้อมูลเพื่อเดินทางไปต่อสถานที่ต่อไปเท่านั้น แถวบอสใหญ่แต่ละฉากที่เราจะต้องต่อกรด้วยเนื้อเรื่องพูดถึงหลังจากจัดการไปน้อยมากจริง ๆ ทั้งที่ช่วงต้นเกมเนื้อเรื่องปูมาซะดิบดีเลยค่ะ ทำให้รู้สึกได้อย่างหนึ่งว่าเรื่องบทเนื้อเรื่องทางทีมผู้พัฒนาเกม Counterplay Games ใส่ใจรายละเอียดน้อยไปนิด อย่างไรก็ตามเนื้อเรื่องยังไม่จบแค่นั้นนะคะ ซึ่งจะมีการเล่าต่อในเนื้อหาเสริม [DLC] ที่จะอัปเดตภายในปีหน้า ก็ได้แต่หวังว่าจะแก้ไขในส่วนเนื้อเรื่องที่ทำให้ดูน่าติดตามมากกว่านี้ก็แล้วกันนะ เกมเพลย์ที่ดุดัน หลากหลาย มีเสน่ห์ และ เป็นจุดแข็งของเกมนี้! ต้องบอกว่าตัวเกม Godfall เกมเพลย์มีความซับซ้อนมาก แต่ต้องอธิบายก่อนว่าคำว่า “ซับซ้อน” ที่เกวลินพูดถึงคือระบบภายในเกมมันเยอะมากจริง ๆ ค่ะ ซึ่งถ้าผู้เล่นใหม่จะต้องทำความเข้าใจเรื่องอาวุธภายในเกมก่อนค่ะ ปัจจุบันอาวุธภายในเกมจะมีทั้งหมด 5 ชนิดแล้วทุกชนิดก็เป็นประเภทโจมตีในระยะประชิดทั้งหมด ไม่มีอาวุธที่ใช้ในการโจมตีระยะไกล หรือ อาวุธที่ทำให้เราร่ายเวทมนตร์ได้ ซึ่งอาวุธภายในเกมก็จะประกอบไปด้วย ดาบยาว, ดาบใหญ่, ดาบคู่, หอก และ ค้อน รวมไปถึงโล่ที่เราสามารถใช้ในการป้องกันการโจมตีหรือสวนการโจมตีกลับก็ทำได้เหมือนกัน ทั้งนี้ต่อให้อาวุธภายในเกมจะมีเพียงแค่นี้แต่เราก็สามารถพกอาวุธได้ 2 ชนิดในเวลาเดียวกันค่ะ ทั้งนี้เมื่ออยู่ในเกมถ้าเราเก็บไอเทมพวกอาวุธต่าง ๆ เราก็สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงอาวุธได้ตลอดเวลาอีกด้วย ทำให้ใครที่กังวลเรื่องนี้ตัดไปได้เลยค่ะ แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องมาทำความเข้าใจเพิ่มอีกอย่างก็คือ “อาวุธทุกชิ้นมีธาตุในตัว!” ซึ่งธาตุเหล่านี้จะมีผลต่อมอนสเตอร์ภายในเกม ในช่วงแรก ๆ เรื่องธาตุอาจจะไม่เห็นผลมากนัก แต่ถ้าเราเล่นจนเข้าสู่คอนเทนต์หลัง End Game มันจะเห็นความแตกต่างพอสมควรเวลาไปอัดกับมอนสเตอร์ในระดับสูง ทำให้เกมนี้ผู้เล่นจำเป็นต้องพกอาวุธติดตัวไปหลากหลายธาตุเพื่อเอาไว้ใช้ต่อกรกับมอนสเตอร์ หรือ บอสบางตัวค่ะ แล้วสิ่งที่จะทำให้เกมเพลย์ดูลื่นไหลและเป็นสไตล์ในแบบของผู้เล่นก็คือ “การอัปเกรดสกิล” ทุก ๆ 1 เลเวลเราจะได้แต้มอัปสกิล 1 Point หรือ บางครั้งถ้าไปทำภารกิจก็จะมอบให้ 1 Point หลังทำภารกิจนั้น ๆ สำเร็จ ปัจจุบันสกิลของเกม Godfall มีให้อัปเกรดทั้งหมด 25 ตัว ซึ่งทุก ๆ ตัวจะ Max Level อยู่ที่ระดับ 5 ในแต่ละสกิลการเพิ่มขั้นของสกิลนั้น ๆ ก็จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ รวมไปถึงอาจจะปลดล็อครูปแบบการโจมตี หรือ ลูกเล่นที่ใช้ในการหลบการโจมตีที่ลื่นไหลมากยิ่งขึ้นค่ะ แล้วตรงนี้เองที่ทำให้เราสามารถผสมผสานเกมเพลย์ในแบบของตัวเองที่ได้จากอาวุธที่เลือกใช้ และ สกิลที่อัปเกรดค่ะ เกมเพลย์ของเกม Godfall ถือได้ว่าเป็นจุดแข็งของเกมนี้เลยก็ว่าได้ค่ะ อย่างไรก็ตามมันก็มีจุดที่ต้องอธิบายเพิ่มเติมว่าตัวเกมจะเน้นความดุดันเป็นหลัก ทำให้มันไม่ได้แอ็คชั่นลื่นไหลเหมือนพวกเกม Devil May Cry อะไรพวกนั้นนะคะ เพราะเราไม่สามารถยกเลิกแอนิเมชั่นได้สมบูรณ์แบบ ยิ่งถ้าใช้อาวุธที่มีขนาดใหญ่ น้ำหนักเยอะอันนี้เห็นผลชัดเจนเลย แต่มันก็ขึ้นอยู่กับผู้เล่นว่าอัปเกรดสกิลในส่วนการเพิ่มท่าทางการหลบหลีกมากน้อยแค่ไหน ความสนุกของเกมนี้เลยอยู่ตรงนี้ละค่ะ มาถึงสุดท้ายแล้วสิ่งที่เป็นจุดเด่นของเกมนี้ก็คือ “Valorplate” ชุดเกราะนักรบแห่งทวยเทพ ซึ่งการออกแบบชุดเกราะเหล่านี้อ้างอิงจากจักรราศีทั้ง 12 โดยผู้เล่นจะสามารถปลดล็อคชุดเกราะพวกนี้ได้จากการรวบรวมไอเทมต่าง ๆ แล้วสร้างทีละชุด ๆ แน่นอนว่าแต่ละชุดล้วนมีท่าพิเศษที่เมื่อกดใช้งานจะทำให้เราได้รับผลจากชุดนั้น ๆ ชั่วระยะหนึ่ง ยกตัวอย่างเช่น  ชุดเกราะ Illumina เมื่อเลือกใช้งานผู้เล่นจะได้คุณสมบัติในการเพิ่มความเสียหายให้กับจุดอ่อนของศัตรู 15% แล้วถ้ากดใช้ท่าพิเศษ [Archon Fury] จะปล่อยคลื่นพลังงานสร้างความเสียหายเล็กน้อย และ เผยให้เห็นจุดอ่อนของศัตรู แล้วเมื่อเราโจมตีใส่ศัตรูบริเวณจุดอ่อนก็จะสร้างความเสียหายเพิ่มเติม 40% และความเสียหายจะเพิ่มขึ้นอีก 40% เมื่อผู้เล่นโจมตีบริเวณจุดอ่อนทุกครั้งที่เราทำให้ศัตรูติดสถานะกระเด็น หรือ Deathblow สำเร็จ เป็นต้น โดยชุดเกราะ “Valorplate” ผู้เล่นจะสามารถปลดล็อคได้ครบทั้ง 12 ชุดเมื่อเล่นจบเนื้อเรื่องหลักแล้วดังนั้นอยู่ที่เราอยากจะเล่นสายไหนก็เลือกชุดเกราะให้เหมาะสมก็เพียงพอแล้วค่ะ  กราฟฟิกที่ทำออกมาดีเยี่ยม! แม้ว่าสเปกเครื่องจะไม่สูงก็ตาม ด้วยความที่ตัวเกม Godfall ทางทีมผู้พัฒนาเกม Counterplay Games ได้เลือกใช้ “Unreal Engine 4” ก็มีเกมเมอร์จำนวนไม่น้อยที่กังวลว่า “คอมพิวเตอร์ของตนเองไม่ได้สเปกสูงจะสามารถรันเกมนี้ได้เต็มประสิทธิภาพไหม!?” ผลจากการทดสอบคอมพิวเตอร์ของเกวลินคือ CPU ใช้ i7-8700K ส่วน Ram 32GB. และ GPU ใช้ NVIDIA GeForce GTX 1660 Super ปรับกราฟฟิกสูงสุดความละเอียด 1080p ได้เฟรมเรตอยู่ที่ 59 - 110fps นั้นถือว่าอยู่ในระดับที่น่าพึ่งพอใจเลยค่ะ เพราะจากที่คำนวนแล้วสเปกที่ใช้เล่นอยู่ในขั้นแนะนำนั่นเองค่ะ รายละเอียดกราฟฟิก แสง สี ของเกม Godfall ทำออกมาได้ดีไร้ที่ติ แต่ในช่วง Day One ตัวเกมก็มีปัญหาเรื่อง Bug ต่าง ๆ เกี่ยวกับการแสดงผลที่เยอะพอสมควร โดยเฉพาะเมื่อเล่นออนไลน์กับเพื่อนจะพบปัญหาเกี่ยวข้องกับเฟรมเรตที่ลดลงจากตอนเล่นคนเดียวอย่างเห็นได้ชัดเจน ทั้งนี้ก็ต้องยอมใจทีมผู้พัฒนาเกมที่มีการออกแพทช์อัปเดตแก้ไขปัญหาเรื่องการแสดงผลกราฟฟิก และ เฟรมเรตผิดพลาดเหล่านี้อยู่ 2 - 3 รอบอย่างไรก็ตาม ส่วนใครที่รอเล่นบนเครื่องเกม PlayStation 5 บอกเลยว่าจากการที่ไปส่องเพื่อนที่เขามีเครื่องก็ตอบกลับมาว่า “กราฟฟิกสวยงาม เฟรมเรตนิ่ง การแสดงผลดีเยี่ยม แต่ก็มี Bug มากวนใจเล็ก ๆ น้อย ๆ” สรุปคือดีงาม! สรุป สรุปแล้วความคุ้มค่าในการซื้อเกม Godfall มาเล่นในช่วงเวลาแบบนี้เกวลินก็ตอบได้คำเดียวว่า “คุ้มค่ากับเงินที่เสียไปแน่นอน!” อาจจะเพราะว่าเราไม่ค่อยเห็นเกมทำนองแบบนี้ออกมาให้เราได้เล่นกันมากนัก ตัวเกมมอบความสนุก ตื่นเต้น และ ความท้าทายให้กับผู้เล่นไม่ว่าจะเล่นคนเดียว หรือ เล่นออนไลน์กับเพื่อน ๆ เพราะเมื่อเราเล่นโหมด Hard ความยากที่เพิ่มขึ้น ข้อจำกัดที่ท้าทายผู้เล่นในทีม มันเลยทำให้เราและเพื่อนจะต้องสามัคคีกันไม่งั้นก็ไม่สามารถผ่านอุปสรรคไปได้ แล้วความคุ้มค่าที่เกวลินมองเห็นก็คือ “คอนเทนต์หลัง End Game” มีอะไรให้เราได้ทำเพียบเลยค่ะ เมื่อเราเล่นจบเนื้อเรื่องก็ยังมีการเก็บเลเวลเพื่อไต่ระดับขึ้นไปจุดสูงสุดคือ Level 50 แต่กว่าจะไต่ไปถึงระดับนั้นได้เราก็จะต้องเผชิญหน้ากับ “Tower of Trials หอคอยแห่งการทดสอบ” สถานที่แห่งนี้จะให้เราต่อกรกับศัตรูที่แข็งแกร่งออกตามหาอาวุธในตำนานที่ซ่อนอยู่เพื่อกลับไปล้างบางบอสที่แข็งแกร่งบนหอคอยแห่งการทดสอบในระดับที่สูงขึ้น ซึ่งตอนนี้ที่ทำสถิติได้คืออยู่ที่ชั้น 11 เท่านั้นค่ะ หลังจากนี้ลำบากพอตัวเพราะศัตรูที่เยอะขึ้น และ แข็งแกร่งเกินที่จะต่อกรได้ไว รวมไปถึงคอนเทนต์อื่น ๆ ภายในเกมที่น่าสนใจไม่ว่าจะเป็นการอัปเกรดเลื่อนขั้นอาวุธที่ต่อให้เราไม่มีอาวุธในตำนานก็ให้หาอาวุธชิ้นที่ต้องการ จากนั้นก็เลื่อนขั้นไปเรื่อย ๆ จนกลายเป็นระดับสูงสุดได้ด้วยเช่นเดียวกัน แต่ทั้งนี้มันก็จะมีการสุ่มออกชั่นของอาวุธก็ขึ้นอยู่กับเพื่อน ๆ ว่าจะได้ออฟชั่นตรงกับอาวุธที่เลื่อนขั้นหรือเปล่า แม้ว่าตัวเกม Godfall ส่วนตัวเกวลินจะมองว่ามันคุ้มค่าเพียงใดก็ตาม จุดบอดของเกมก็มีให้เห็นเหมือนกัน ซึ่งส่วนใหญ่จะตกไปอยู่ที่บทเนื้อเรื่องที่ทำออกมาได้ขั้นแย่พอสมควร ฉากคัตซีนสวย ๆ ที่เราเห็นในตัวอย่างจะมีแค่ช่วงเริ่มต้นเกมเท่านั้นค่ะ ที่เหลือก็จะเป็นฉากคัตซีนที่ทำขึ้นมาผ่าน Unreal Engine 4 แล้วที่หนักที่สุดตัวเกมก็ยังมี Bug ให้เราได้เห็นอยู่เป็นระยะ ๆ อีกด้วย โชคยังดีที่ทีมงานมีการเก็บข้อมูลจากผู้เล่นที่มีการแจ้งปัญหาไปแล้วก็ออกแพทช์แก้ไขยกตัวอย่างแพทช์ Day One ที่มีขนาดไฟล์ 25GB. เรียกว่าครึ่งหนึ่งของไฟล์เกมกันเลยค่ะ แล้วอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่อาจจะทำให้เกมเมอร์หลายคนไม่สบายใจก็คงจะเป็นเรื่องของราคาที่จัดอยู่ในระดับที่ “แพงหูฉีก!” เพราะขนาดแพ็คเกจ Standard Edition ยังราคาประมาณ 1,700 บาท แล้วถ้าจะให้คุ้มค่ายังไงก็ต้องซื้อตัวเกมพร้อมเนื้อหาเสริม [DLC] ที่ราคาจะอยู่ประมาณ 2,260 บาท ด้วยราคาเกมขนาดนี้กับคอนเทนต์ที่บางคนอาจจะมองว่า “มันน้อยไปหน่อย!” ซื้อเกมอื่นอาจจะคุ้มค่ากว่า เกวลินก็มองว่าเห็นด้วยค่ะ เพราะถ้าซื้อมาเล่นคนเดียวมันไม่สนุกเท่าไหร่ แต่ถ้าซื้อมาเล่นกับเพื่อนรวม ๆ แล้วมันก็ถือว่าเป็นเกมที่น่าเสียเงินซื้อมาเล่นได้อยู่ อีกทั้งตอนนี้ก็ได้แต่ลุ้นว่าทางทีมผู้พัฒนาเกม Counterplay Games จะตัดสินใจให้เกม Godfall สามารถเล่นข้ามแพลตฟอร์ม [Cross-Platform] ระหว่าง PC กับ PlayStation 5 หรือเปล่า!? เพราะถ้าทำได้จริงก็จะช่วยทำให้เกมนี้ได้รับความนิยมมากขึ้น แล้วยิ่งให้เกมนี้เป็นตัวชูโรงในช่วงแรกของการโปรโมทเครื่องเกม PlayStation 5 ด้วยแล้วถ้าทำระบบนี้มันก็จะตอบโจทย์ผู้เล่นได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ น่าเสียดายที่ยังไม่มีการพูดถึงเรื่องนี้เลย สุดท้ายใครที่สนใจอยากจะเล่นเกมนี้แพลตฟอร์ม PC สั่งซื้อได้แล้วที่ Epic Games ส่วนแพลตฟอร์ม PlayStation 5 ก็วางจำหน่ายบน PlayStation Store ได้แล้ววันนี้ค่ะ [penci_review id="72743"]
19 Nov 2020
รู้ก่อนซื้อ! Godfall เกมแนว Action RPG ฟอร์มดีเอ็กซ์คลูซีฟ PC และ PS5 ที่ควรหามาเล่น
มาอยู่อีกหนึ่งเกมที่พึ่งวางจำหน่ายกันไปสด ๆ ร้อน ๆ แถมเป็นหนึ่งในเกมที่ใช้ในการโปรโมทเครื่องเกมคอนโซลรุ่นใหม่ PlayStation 5 ด้วยนะ นั้นก็คือเกม “Godfall” เกมแนว Action Hack and Slash ผลงานจาก Counterplay Games หนึ่งในทีมผู้พัฒนาเกมที่อยู่ภายใต้การดูแลของ Gearbox Software ที่หลายคนอยากจะซื้อเกมนี้เพื่อมาเล่นบนเครื่อง PlayStation 5 ซะหน่อย แต่เพราะตอนนี้เครื่องยังไม่มีกำหนดวางจำหน่ายในบ้านเราอย่างเป็นทางการ ทำให้มีเกมเมอร์จำนวนหนึ่งตัดสินใจที่จะไปซื้อเล่นบนแพลตฟอร์ม PC เสียก่อน หนึ่งในนั้นก็คือเกวลินเองละค่ะ ฮ่า ๆ วันนี้จะพาเพื่อน ๆ ไปรู้จักเกมนี้คร่าว ๆ ก่อนที่จะซื้อมาเล่นกันค่ะ   ตัวเกม Godfall มันเป็นเกมแนวไหนกันแน่!? เป็นคำถามแรก ๆ ที่หลายคนก็ยังคงสงสัยว่า “สรุปแล้วเกมนี้มันเป็นเกมแนวไหน เล่นอะไรยังไง!?” เกวลินเลยขออธิบายให้ฟังคร่าว ๆ ก็คือตัวเกมเป็นแนว Action Hack and Slash ที่ให้อารมณ์เหมือนกำลังเล่นเกม Warframe เกมเพลย์มีความแอ็คชั่นที่ดุดัน ผ่านภารกิจในรูปแบบมิสชั่นที่แต่ละด่านก็จะมีเงื่อนไขในการทำที่แตกต่างกันออกไปค่ะ แล้วเราก็เลือกระดับความยากง่ายได้ด้วย ส่วนความแข็งแกร่งของตัวละครก็จะขึ้นอยู่กับไอเทมต่าง ๆ ที่มีการแบ่งระดับออกไป ในช่วงเริ่มเกมไอเทมก็จะได้ตามระดับเลเวลของด่านที่เราต้องไปลง นอกจากนี้ไอเทมทุกชิ้นภายในเกมล้วนมีออฟชั่นที่ไม่เหมือนกัน ทำให้ผู้เล่นสามารถที่จะอัปสกิลในแบบที่ต้องการจะเล่นแล้วนำมาผสมผสานกับการใส่ออฟชั่นให้เหมาะสม ทำให้เราสามารถมีสายการเล่นที่แตกต่างกันออกไป ในด้านอาวุธภายในเกมก็มีหลากหลายประเภท ต่อให้เป็นประเภทเดียวกันก็มีลูกเล่นที่ไม่เหมือนกันอีกด้วยค่ะ ตรงนี้เลยทำให้กลายเป็นจุดเด่นที่เราสามารถสร้างเกมเพลย์ให้แตกต่างจากผู้เล่นคนอื่น ๆ ได้   แม้จะเล่นคนเดียวก็ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในการเล่นตลอดเวลา! ใช่ค่ะ เพื่อน ๆ ฟังไม่ผิดแน่นอน เพราะตัวเกม Godfall ถึงผู้เล่นจะเล่นคนเดียวตั้งแต่ต้นจนจบเกม แต่ตัวเกมก็จะมีการบังคับให้เราเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตตลอดเวลา เพื่อให้ตัวเกมสามารถอัปเดตข้อมูลในการเล่นเอาไว้ตลอดเวลาเพื่อป้องกันการสูญหายจากปัญหาต่าง ๆ อีกทั้งเมื่อเราเล่นอยู่ภายในเกมถ้ายังไม่ลงภารกิจต่าง ๆ ก็สามารถที่จะชวนเพื่อนเข้าในปาร์ตี้เพื่อไปทำภารกิจร่วมกันได้เลยค่ะ กราฟฟิกสุดอลังการด้วยขุมพลังของ Unreal Engine 4 ต้องบอกว่าตั้งแต่เปิดตัวอย่างเป็นทางการของเกม Godfall ตัวเกวลินก็ให้ความสนใจเกมนี้และติดตามข่าวสารมาโดยตลอด ตัวเกมทางทีมผู้พัฒนาเกม Counterplay Games ตัดสินใจเลือกใช้ “Unreal Engine 4” จากค่ายยักษ์ใหญ่ Epic Games ในการสร้างสรรคเกมนี้ออกมาให้เราได้เล่นกัน จึงไม่ต้องแปลกใจที่ทำไมเกมนี้ถึงวางจำหน่ายแบบเอ็กซ์คลูซีฟบนแพลตฟอร์ม PC ผ่านร้านค้าของ Epic Games ก่อน 6 ไปวางจำหน่ายผ่านช่องทางอื่นเป็นระยะเวลา 6 เดือน เห็นภาพสวย ๆ แบบนี้บนแพลตฟอร์ม PC แต่จริง ๆ ไม่ได้กินสเปกอย่างที่คิด! แอบกลัวเหมือนกันค่ะ เพราะตอนแรกที่เกวลินเห็นตัวอย่างเกม Godfall คิดว่ามันจะต้องกินสเปกเครื่องแน่นอนเลย แถมตัวเกมยังใช้ขุมพลัง Unreal Engine 4 ทำให้คนที่ใช้สเปกระดับกลาง ๆ ก็กังวลไม่ใช่น้อยเลยว่าจะเล่นเกมนี้ได้หรือเปล่า แต่ผลจากการทดสอบคอมพิวเตอร์ของเกวลินคือ CPU ใช้ i7-8700K ส่วน Ram 32GB. และ GPU ใช้ NVIDIA GeForce GTX 1660 Super ปรับกราฟฟิกสูงสุดความละเอียด 1080p ได้เฟรมเรตอยู่ที่ 40 - 55fps ส่วนสเปกคอมพิวเตอร์ที่ทางทีมผู้พัฒนาเกมแนะนำมีดังต่อไปนี้ สเปคคอมพิวเตอร์ขั้นต่ำที่ใช้ในการเล่นเกม Godfall OS: Windows 10 เฉพาะ 64Bit. เท่านั้น CPU: Intel Core I5-6600 3.3GHz. หรือ AMD Ryzen 5 1600 3.2GHz. ขึ้นไป Ran: 12GB. ขึ้นไป GPU: NVIDIA GeForce GTX 1060 ที่มีหน่วยความจำ 6GB. ขึ้นไป หรือ AMD Radeon RX 580 ที่มีหน่วยความจำ 8GB. ขึ้นไป Storage: 50 GB. ขึ้นไป แนะนำให้ติดตั้ง SSD หรือ SSD M.2 จะช่วยให้การอ่านข้อมูลรวดเร็วมากขึ้น DirectX: Version 11 compatible video card or equivalent Network: Broadband Internet connection Sound Card: DirectX Compatible สเปกเครื่องคอมพิวเตอร์ขั้นแนะนำที่ใช้ในการเล่นเกม Godfall OS: Windows 10 เฉพาะ 64Bit. เท่านั้น CPU: Intel Core I5-8700 4.6GHz. หรือ AMD Ryzen 5 3600 3.6GHz. ขึ้นไป Ran: 16GB. ขึ้นไป GPU: NVIDIA GeForce GTX 1080 Ti ที่มีหน่วยความจำ 11GB. ขึ้นไป หรือ AMD Radeon RX 5700 XT ที่มีหน่วยความจำ 8GB. ขึ้นไป Storage: 50 GB. ขึ้นไป แนะนำให้ติดตั้ง SSD หรือ SSD M.2 จะช่วยให้การอ่านข้อมูลรวดเร็วมากขึ้น DirectX: Version 11 compatible video card or equivalent Network: Broadband Internet connection Sound Card: DirectX Compatible ราคาเกมที่อาจจะแรง แต่ก็คุ้มค่าที่จะซื้อมาเล่นอยู่นะ! ปัจจัยสำคัญของเกม Godfall ที่ทำให้เกมเมอร์ลังเลก็คือเรื่องของราคาที่ไม่ว่าจะเป็นแพลตฟอร์มไหนก็สูงพอสมควรเลย ขนาดแบบแผ่นของเครื่อง PlayStation 5 แพ็คเกจธรรมดายังขายในราคา 2,290 บาท โดยแพ็คเกจแพลตฟอร์ม PC ผ่านร้านค้าของ Epic Games มีทั้งหมด 3 ชุดด้วยกันประกอบไปด้วย Standard Edition ราคาอยู่ที่ $56.99 เหรียญสหรัฐฯ [1,700 บาท] ที่จะมีเพียงแค่ตัวเกมเท่านั้น ตามมาด้วย Deluxe Edition ราคาอยู่ที่ $74.99 เหรียญสหรัฐฯ [2,260 บาท] ที่จะมีทั้งตัวเกมและเนื้อหาเสริมที่จะอัปเดตภายในปี 2021 และ Ascended Edition ราคาอยู่ที่ $84.99 เหรียญสหรัฐฯ [2,560 บาท] รายละเอียดในชุดนี้มีดังต่อไปนี้ ตัวเกม Godfall เนื้อหาเสริม [DLC] ตัวแรกที่จะอัปเดตในปี 2021 สกินสีทอง [Gold Valorplate] ของชุดเกราะ Silvermane, Phoenix และ Greyhawk สกินสีพิเศษ [Red Valorplate] ของชุดเกราะ Vertigo สกินสีทองของอาวุธ 5 ชิ้น สกินสีทองของโล่ สกิลสีทองของ Royal Banner ฉายาพิเศษในโหมดออนไลน์ ถ้าถามเกวลินว่าควรซื้อแพ็คเกจไหนถึงจะเหมาะสมดี!? เพราะแพ็คเกจ Deluxe Edition และ Ascended Edition ที่ราคาห่างกันประมาณ 300 บาทให้คอนเทนต์ภายในที่แตกต่างกันเล็กน้อย แต่สิ่งที่สำคัญก็คือเนื้อหาเสริม [DLC] ตัวแรกที่ได้มาทั้งสองตัว อืม...ถ้าให้แนะนำคงเป็น Deluxe Edition ค่ะ แต่ถ้าใครที่คิดว่ากำลังเงินไว้ก็สามารถเลือกเป็น Ascended Edition ก็จะได้สกินเหล่านั้นมาใช้ในการติดตั้ง ซึ่งไม่มีผลอะไรกับตัวละครนะคะ แค่ความสวยงามและเก๋ไก๋เท่านั้น เพราะภายในเกมและในอนาคตก็จะมีการเพิ่มสกินและโทนสีเข้ามาให้ผู้เล่นได้ปลดล็อคอยู่แล้วนั่นเองค่ะ นี่เป็นแค่รายละเอียดแนะนำเพื่อให้เพื่อน ๆ ได้รู้จักเกม Godfall มากยิ่งขึ้นค่ะ แล้วหลังจากนี้ทางเกวลินก็จะมีบทความรีวิวเกม และ ไกด์ต่าง ๆ ของเกมนี้ออกมาเสิร์ฟให้เพื่อน ๆ ได้ติดตามกัน อย่างแน่นอนค่ะ ใครที่สนใจอยากเล่นบนแพลตฟอร์ม PC ก่อนก็สามารถสั่งซื้อได้แล้วที่ Epic Games ส่วนแพลตฟอร์ม PlayStation 5 ก็วางจำหน่ายบน PlayStation Store แล้ววันนี้ ส่วนเครื่องละ 5 5 5+ อันนี้รอทาง Sony Thailand ประกาศวันวางจำหน่ายและราคาอย่างเป็นทางการต่อไปค่ะ
17 Nov 2020